เมื่อวันที่ 13 ก.คคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ที่อาคารบริหารท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 โดยขณะนี้ในส่วนของท่าเทียบเรือ F ซึ่งการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เป็นผู้ดำเนินงานก่อสร้างงานทางทะเล เพื่อรองรับการก่อสร้างท่าเทียบเรือและโครงสร้างพื้นฐาน ท่าเรือชายฝั่ง ก่อสร้างระบบรถไฟ ภาพรวมมีความล่าช้าประมาณ 12 เดือน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การดำเนินการงานขุดลอกถมทะเล สร้างเขื่อนกันคลื่นล่าช้า

นายอธิรัฐ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันงานมีความคืบหน้าประมาณ 5% มีระยะเวลาการดำเนินงาน 4 ปี (5 พ.ค.64-3 พ.ค. 68) จึงได้สั่งการให้ กททคำพูดจาก สล็อตทดลองเล่นฟรี. จัดทำแผนเร่งรัดการก่อสร้าง (Action Plan) โดยเพิ่มเครื่องมือเครื่องจักรในการทำงาน ใช้เทคนิคด้านวิศวกรรมเร่งรัดงานให้เร็วขึ้น เพิ่มจำนวนคนและเวลางาน เพื่อที่จะสามารถส่งมอบพื้นที่ เพื่อให้บริษัท จีพีซี อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล จำกัด เข้าดำเนินงานได้ภายในปี 68 ตามสัญญา

นายอธิรัฐ กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F เมื่อพัฒนาแล้วจะเพิ่มขีดความสามารถท่าเรือแหลมฉบังจาก 11 ล้านตู้/ปี เป็น 18 ล้านตู้/ปี รองรับการขยายตัวของปริมาณเรือขนส่งสินค้าทางทะเลเพิ่มขึ้น และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่จะแล้วเสร็จในปี 68 จึงได้มอบนโยบายการดำเนินงานให้ท่าเรือแหลมฉบัง ดังนี้ 1.แผนปฏิบัติการโครงสร้างพื้นฐานอีอีซี ประจำปี 66-70 ภายใต้แผนยุทธศาสตร์และเป้าหมายในส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งให้ท่าเรือแหลมฉบัง จัดทำแผนปฏิบัติการ (Action Plan) การพัฒนาพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบังให้รองรับปริมาณตู้สินค้าอย่างเพียงพอ

2. เร่งแก้ไขปัญหาการจราจรและความแออัดในท่าเรือแหลมฉบัง เน้นบูรณาการกับทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการจัดการด้านข้อมูลใช้เทคโนโลยีที่เชื่อมโยงข้อมูลถึงกัน และ 3. Green Port การมุ่งสู่ท่าเรือพาณิชย์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยการใช้เทคโนโลยีพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ทดแทนการใช้พลังงานเชื้อเพลิง เพื่อลดมลพิษในบริเวณท่าเรือ หรือลดการใช้พลังงานไฟฟ้า อย่างไรก็ตามนโยบายต่างๆ เหล่านี้ เพื่อให้ท่าเรือแหลมฉบังเป็นประตูการค้าการลงทุน สามารถส่งเสริมสนับสนุนทั้งด้านนโยบายและด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทำให้โครงการอีอีซี ประสบความสำเร็จ เสริมยุทธศาสตร์ที่ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าบริการขนส่งเชื่อมภูมิภาคเอเชียไปสู่ระดับโลก.